วิธีขึ้นทะเบียน I-REC พร้อมข้อมูลค่าขึ้นทะเบียนปรับใหม่ ปี 2025

วิธีขึ้นทะเบียน I-REC พร้อมข้อมูลค่าขึ้นทะเบียนปรับใหม่ ปี 2025

การขึ้นทะเบียน I-REC เหมาะกับใคร มีขั้นตอนอย่างไร แล้วต้องติดต่อกับหน่วยงานใดบ้าง ทาง REC Thailand มีคำตอบ พร้อมด้วยข้อมูลค่าขึ้นทะเบียนปรับใหม่ อัพเดทปี 2025

REC คืออะไร ใครคือผู้ตรวจสอบรับรองในไทย

REC ย่อมาจาก Renewable Energy Certificate คือใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน ซึ่งองค์กรต่างๆ สามารถซื้อและใช้อ้างสิทธิ์การใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนได้ โดยจะมีประโยชน์ในการลด Carbon Footprint และการบรรลุเป้าหมายต่างๆ ในด้านสิ่งแวดล้อม เช่น Carbon Neutrality, Net Zero, RE100 เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม : Renewable Energy Certificate (REC) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

ในส่วนของมาตรฐานนั้น REC ในไทยจะมีผู้ตรวจสอบรับรองคือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. หรือ EGAT) โดยจะใช้มาตรฐาน I-REC ซึ่งถูกกำหนดโดยองค์กรในระดับสากลที่มีชื่อว่า International Tracking Standard Foundation (I-TRACK Foundation)

อ่านเพิ่มเติม : I-REC ต่างจาก REC อย่างไร รวมทุกเรื่องที่ควรรู้

อัพเดท ค่าขึ้นทะเบียน I-REC ปรับใหม่ ปี 2025

I-TRACK Foundation ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน I-REC และ Evident ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบขึ้นทะเบียนกลางของ I-REC ในระดับสากล ได้ร่วมกันแจ้งปรับค่าขึ้นทะเบียน I-REC มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2025 โดยมีรายละเอียดการปรับเปลี่ยนดังนี้

  • ค่าขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าที่มีกำลังอย่างน้อย 1 MW แต่ไม่ถึง 3 MW ปรับลดจาก 38,000 บาท เหลือ 19,000 บาท
  • ค่าขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าที่มีกำลังไม่ถึง 1 MW ปรับลดจาก 38,000 บาท เหลือ 3,800 บาท
  • ค่าขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าที่มีกำลังไม่ถึง 250 kW และมีวิธีเข้าถึงการอ่านมิเตอร์ดิจิทัลที่ผ่านการอนุมัติ ปรับลดจาก 38,000 บาท เป็นได้รับการยกเว้นค่าขึ้นทะเบียน
  • ค่าต่ออายุการขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้า ปรับจาก 15,200 บาท เป็น 40% ของค่าขึ้นทะเบียน

ในภาพรวมจะเห็นได้ว่า การปรับค่าขึ้นทะเบียนนี้จะเป็นการกำหนดแบบขั้นบันไดตามขนาดของโรงไฟฟ้า ทำให้โรงไฟฟ้าขนาดเล็กมีค่าใช้จ่ายลดลง ซึ่งนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนอื่นๆ อีก ได้แก่ มีการยกเลิกการลงทะเบียนแบบกลุ่ม มีการปรับการเตรียมเอกสารให้สะดวกขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียน I-REC สำหรับโรงไฟฟ้าจะมีอายุอยู่ได้ 5 ปี ซึ่งก็เช่นเดียวกันสำหรับการต่ออายุในแต่ละครั้ง สำหรับผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียดการปรับเปลี่ยนค่าขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม ก็สามารถดูข้อมูลได้ที่เอกสาร Fee Structure I-REC(E) 2024

ผลจากการเปลี่ยนแปลงค่าขึ้นทะเบียน I-REC

ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนแปลงค่าขึ้นทะเบียน I-REC เป็นแบบขั้นบันไดก็คือ จะทำให้โรงไฟฟ้าขนาดเล็กมีแนวโน้มสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้น

เช่นเดียวกันสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร และการยกเลิกการลงทะเบียนแบบกลุ่ม ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้าสามารถใช้รายละเอียดของตนเองได้เลย ไม่ว่าจะเป็นวันที่โรงไฟฟ้าเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แหล่งที่ตั้งของโรงไฟฟ้า ฯลฯ จึงมีผลช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ผลิตรายย่อย

การขึ้นทะเบียนเพื่อขาย REC เหมาะกับใคร

การขึ้นทะเบียนเพื่อขาย REC จะเหมาะกับธุรกิจที่เข้าข่ายตามเงื่อนไขเหล่านี้

  1. ธุรกิจที่เป็นเจ้าของแหล่งผลิตไฟฟ้าด้วยตนเอง การมีเอกสารชัดเจนว่าเป็นเจ้าของแหล่งไฟฟ้าจะเป็นข้อจำกัดสำคัญประการแรก เพราะหากเป็นกรณีที่ซื้อหน่วยไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนหลังคาของตนผ่านผู้รับเหมาหรือผู้ขายไฟฟ้าอีกที ก็จะไม่เข้าเงื่อนไขของการขึ้นทะเบียน I-REC
  2. ธุรกิจที่ไม่ต้องการเคลมความเขียวของการใช้ไฟฟ้า ปัจจุบันมีองค์กรจำนวนมากที่มีเป้าหมายในด้านไฟฟ้าสีเขียว และได้เริ่มด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาของตน องค์กรกลุ่มนี้จะไม่แนะนำให้นำความเขียวออกมาขายเป็น REC เนื่องจากหากมีการเคลมความเขียว ณ จุดใช้ไฟฟ้า และมีการเคลมอีกครั้งเมื่อขาย REC ให้กับผู้อื่น ก็จะถือเป็นการนับซ้ำ (Double Counting) ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาเมื่อได้รับการตรวจสอบจากผู้ทวนสอบต่าง
  3. ธุรกิจที่ต้องการหารายได้เสริมนอกเหนือจากการขายไฟฟ้า ปัจจุบันการขาย REC นับเป็นช่องทางรายได้เสริมที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด อย่างไรก็ตาม การขาย REC นั้นก็มีต้นทุนในเรื่องของการขึ้นทะเบียน การลงทุนด้านบุคลากร ตลอดจนค่าดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงอาจกลายเป็นดาบสองคมได้ ซึ่งด้วยความที่ REC นั้นไม่มีราคากลาง การตั้งราคาขายจึงมีความท้าทาย หากตั้งแพงไปก็ทำให้ขายลำบาก แต่หากตั้งถูกไปก็ทำให้เสียโอกาส ในจุดนี้ การได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในตลาด REC อย่าง REC Thailand จึงเป็นกุญแจสำคัญในการขยายรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยประหยัดเวลาและบุคลากรได้

ขั้นตอนการขึ้นทะเบียน I-REC

การขึ้นทะเบียนตามมาตรฐาน I-REC จะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ การขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้า (Production Facility Registration) และการขึ้นทะเบียนบัญชีซื้อขาย (Participant Account)

โดยหากโรงไฟฟ้าต้องการดำเนินการซื้อขายเองก็จำเป็นจะต้องลงทะเบียนทั้งสองบัญชี แต่โรงไฟฟ้าส่วนมากจะนิยมใช้บัญชีซื้อขายผ่านตัวแทนซื้อขายอย่าง REC Thailand เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสมัคร การดูแลบัญชี ตลอดจนการหาลูกค้าเพื่อนำไปสู่การปิดการขาย REC

สำหรับการขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าตามมาตรฐาน I-REC ก็จะเริ่มที่การเปิดบัญชีผู้ขึ้นทะเบียน (Registrant Account) ซึ่งจะมีขั้นตอนโดยสังเขปดังนี้

  1. กรอกข้อมูลและให้ผู้มีอำนาจเซ็นเอกสาร STC Contact (2 ฉบับ) และ SF-01
  2. ดำเนินการส่งเอกสาร STC Contact และ SF-01 พร้อมจดหมายปะหน้า (ดูตัวอย่างได้ที่หน้า 5 ของ Process Guide) ให้กับทาง กฟผ. ผ่านทางไปรษณีย์ โดยส่งพร้อมเอกสารหลักฐานประกอบตามรายละเอียดในหน้า 1 ของ Process Guide
  3. เมื่อทาง กฟผ. ตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จะเซ็น STC Contact และส่งกลับให้ทางบริษัทผ่านทางไปรษณีย์และ/หรืออีเมล และจะดำเนินการส่งเอกสารต่างๆ ให้กับทาง Evident ต่อไป
  4. ทาง Evident จะส่งพาสเวิร์ดในการเข้าสู่ระบบ Evident Registry ไปที่อีเมลของผู้ใช้หลัก ซึ่งก็นับว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนของการเปิดบัญชีผู้ขึ้นทะเบียน

เมื่อเปิดบัญชีผู้ขึ้นทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนของการขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้า ซึ่งก็จะมีขั้นตอนโดยสังเขป ได้แก่

  1. ผู้ขึ้นทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม SF-02 และเซ็นรับรองโดยผู้มีอำนาจ
  2. ส่งแบบฟอร์ม SF-02 ให้กับทาง กฟผ. พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบตามรายละเอียดในหน้า 2-3 ของ Process Guide
  3. เมื่อทาง กฟผ. ตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็จะแจ้งผู้ขึ้นทะเบียนผ่านทางอีเมล
  4. ผู้ขึ้นทะเบียนจะได้รับใบเสร็จค่าขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าที่ออกโดย กฟผ. ผ่านทางอีเมล

เมื่อขึ้นทะเบียนโรงไฟฟ้าเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนของการออกใบรับรอง I-REC ซึ่งจะมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

  1. ผู้ขึ้นทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม SF-04 และเซ็นรับรองโดยผู้มีอำนาจ
  2. ส่งแบบฟอร์ม SF-04 พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบให้กับทาง กฟผ. ตามรายละเอียดในหน้า 4 ของ Process Guide
  3. เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ใบรับรอง I-REC ก็จะถูกส่งไปยังบัญชีซื้อขาย (Participant Account) ตามที่ระบุในแบบฟอร์ม SF-04 พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนทางอีเมล
  4. ผู้ขึ้นทะเบียนจะได้รับใบเสร็จค่าออกใบรับรอง I-REC จาก กฟผ. ผ่านทางไปรษณีย์และ/หรืออีเมล

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจก็สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารแบบฟอร์มต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ I-REC Issuer ของ กฟผ.

อ่านเพิ่มเติม : ซื้อขาย REC ในไทย ทำได้อย่างไร เช็กราคาได้ที่ไหน

ความท้าทายของการขาย REC

อุปสรรคสำคัญในการขาย REC ก็คือการไม่เข้าใจตลาด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของความต้องการของลูกค้า และการกำหนดราคาที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้หาลูกค้าได้ยาก ปิดการขายลำบาก ทั้งยังต้องใช้เวลานาน

นอกจากนี้ ก็ยังมีประเด็นในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น จากการจ้างบุคลากร การทำการตลาด การดำเนินงานด้านการขาย ฯลฯ ทำให้เกิดเป็นภาระและความกดดันที่เพิ่มขึ้น

ปัจจัยเหล่านี้เมื่อรวมกันแล้ว จึงทำให้โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้บริการตัวแทนซื้อขายอย่าง REC Thailand ซึ่งนอกจากจะมีผลช่วยลดภาระและความเสี่ยงแล้ว ก็ยังสามารถช่วยให้หาลูกค้าและปิดการขายได้เร็วขึ้น รวมถึงได้ราคาที่เหมาะสมยิ่งขึ้นอีกด้วย

REC Thailand ผู้ให้บริการชั้นนำด้าน REC ในไทย

REC Thailand เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้าน REC โดยมีบริการครอบคลุมทั้งในส่วนของผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าองค์กรของท่านจะมีความต้องการเฉพาะในรูปแบบใด เราก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและช่วยดูแลในทุกขั้นตอน มั่นใจได้ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมพลังงานกว่า 20 ปี ภายใต้เครือบริษัท GMS Interneer

ที่ผ่านมา REC Thailand ได้ร่วมเคียงข้างหลากหลายองค์กรในการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ผ่านการซื้อ REC โดยเราสามารถนำเสนอให้ได้ทุกเทคโนโลยีที่มีการผลิตในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ หรือพลังงานชีวมวล นอกจากนี้เรายังมีเครือข่ายโรงไฟฟ้าที่มีการขึ้นทะเบียนกับ I-REC ในหลากหลายประเทศ ทั้งเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์

หรือหากองค์กรของท่านกำลังมองหา Carbon Credit เราก็สามารถจัดสรรให้ได้เช่นเดียวกันทั้งมาตรฐาน T-VER ของประเทศไทย หรือมาตรฐานระดับสากล เช่น Verra และ Gold Standard ครอบคลุมทั้งรูปแบบโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดยสามารถติดต่อรับคำปรึกษาได้ที่ GMS Solar

Scroll to Top